ศาลสั่งประหาร “เสี่ยอ้วน” ฆ่าสปาย-ฟอส ชดใช้สองครอบครัวรวม 14 ล้านบาท (ชมคลิป)

ศาลสั่งประหาร “เสี่ยอ้วน” ฆ่าสปาย-ฟอส ชดใช้สองครอบครัวรวม 14 ล้านบาท

 

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=IqR0GnM5idY[/embedyt]

 

วันนี้ ( 18 ก.ย. 62 ) ศาลจังหวัดพัทยานัดพิพาษาคดีที่นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน บางลา เจ้าของผับที่หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต พร้อมพวกรวม 6 คน ร่วมกันฆ่านางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส บริเวณลานจอดรถหน้าองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เมื่อ ปี 2561

โดยนางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่ของสปาย ซึ่งเดินทางมารับฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง กล่าวว่า อยากให้ศาลลงโทษสูงสุดกับจำเลยทุกคน หรือประหาร “เสี่ยอ้วน”คนบงการ แต่ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร ก็จะเคารพในคำตัดสิน จะไม่อุทธรณ์คดี แต่หากฝั่งจำเลยอุทธรณ์ก็จะสู้ให้ถึงที่สุดเช่นกัน

ล่าสุดศาลจังหวัดพัทยา พิพากษาสั่งประหารชีวิต นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน นายเกียรติศักดิ์ สุรางค์แสงมีบุญ หรือบอล คนขับรถฮอนด้าซีอาร์วีพาเสี่ยอ้วนกับทีมมือปืนไปก่อเหตุ และนายณรงค์ วรินทรเวช หรือบ่าว มือปืนที่เสี่ยอ้วนจ้างวาน แต่จำเลยทั้ง 3 ให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ส่วน นายสายันต์ ศรีสุข คนชี้เป้า  ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 50 ปี  ขณะที่ นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือป๊อบปี้ ทำหน้าที่ขับรถคุ้มกันทีมเสี่ยอ้วน และตามประกบกลุ่มผู้ตาย และนายกฤษณะ ศรีสุข หรือมด คนคุ้มกันเสี่ยอ้วน ศาลสั่งจำคุกคนละ 16 ปี พร้อมให้จำเลยที่ 1-6 ชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวนายอนันตชัย หรือฟอส และครอบครัวนางสาวปวีณา หรือสปาย รวมคนละ 7 ล้านกว่าบาท

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 หลังมีกลุ่มคนร้ายดักยิงนางสาวปวีณาและนายอนันตชัย เสียชีวิต ขณะเดินทางไปท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่จังหวัดชลบุรี จากการสืบสวนตำรวจทราบว่าคนวางแผนก่อเหตุคือนายปัญญา หรือ เสี่ยอ้วน ซึ่งมีสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งหมด โดยเสี่ยอ้วน ถูกจับกุมได้ในวันที่ 15 ส.ค. 2561 ระหว่างหลบหนีอยู่ประเทศกัมพูชา เป็นเวลาเกือบเดือน อ้างว่าปมแค้นมาจากการที่ถูกผู้เสียชีวิตทั้งคู่หลอกลวงมาตลอด 3 ปี ว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่แอบคบหากัน จึงโกรแค้นเพราะสูญเสียเงินเป็นค่าเลี้ยงดูให้ฝ่ายหญิงและครอบครัวไปกว่า 7 ล้านบาท

ภาพข่าว/สมชาย โคตล่ามแขก /รายงาน

Related posts