สลด!! ฟันวาฬหัวทุยหายเกลี้ยง หลังลอยตายที่เกาะลันตา คาดทำคุณไสย จนท.แจ้งความ และหาสาเหตุการตาย
จากกรณีพบวาฬหัวทุยยาว 12 เมตร ลอยตายทะเลเกาะลันตา เตรียมเข้าฝ่าพิสูจน์หาสาเหตุ ช่วงเย็นวันที่ 2 กค.62 นายแสน ศรีงาม ประมงจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้นายศักดิ์ดา ทวีเมือง ประมงอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ ร่วมกับนายวันชัย รอดรักษ์ และนายสุนันท์ วงศ์ประเสริฐ ชาวประมงในพื้นที่ต.เกาะลันตาใหญ่ เข้าไปลากซากวาฬขนาดใหญ่ ที่ลอยตายอยู่กลางทะเล บริเวณระหว่างเกาะลันตาใหญ่ – เกาะไหง ห่างจากเกาะลันตาประมาณ 3 ไมล์ทะเล โดยเจ้าหน้าที่ได้ลากวาฬตัวดังกล่าวเข้ามาที่บริเวณเกาะกวง หน้าบ้านสังกะอู้ หมู่ 7 ต.เกาะลันตาใหญ่
นางพิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.กระบี่ ได้กล่าวว่า วาฬหัวทุย หรือวาฬสเปิร์มเพราะสัตว์ตัวนี้ไม่ใช่ปลาแต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในทะเลและมีรูปร่างคล้ายปลาที่มีขนาดใหญ่ วาฬหัวทุยมีหัวขนาดใหญ่ 12 เมตร มีนำหนักประมาณ 12 ตัน ดำน้ำได้ลึก 3,000 เมตรและได้นานถึงประมาณ 1 ชั่วโมง ในน่านน้ำไทยพบรายงานเพียง 3 จังหวัด คือ พังงา, ภูเก็ต และสตูล และถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ้งสาเหตุการตายนั้น มีปัจจัยจาก การป่วยทางธรรมชาติ อุบัติเหตุ และมีการพบปลาวาฬชนิดนี้ ในเขตพื้นที่ฝั่งอันดามัน ตั้งแต่ปี 2534 ที่เคยมาเกยตื้นหรือลอยตายทะเลกว่า 21 ตัว ซึ้งส่วนใหญ่พบได้ฝั่งอันดามัน ที่มีน้ำทะเลลึกกว่าอ่าวไทย
ซึ้งทาง จนท จะใช้เวลาพิสูจน์แร่เนื้อชำเระให้ไปถึกระเพาะอาหารเพื่อตัดชิ้นเนื้อสำคัญส่งไปวิจัยกันอีกครั้งที่ศูนย์ภูเก็ต ซึ้งต้องใช้เวลา 10 ชม หลังจากได้ลงปฎิบัติการตั้งแต่เวลา 08.00 น
ด้านนายสมบูรณ์ เต็มชื่น นายอำเภอเกาะลันตา ได้กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ ศูนย์วิจัยพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย -อันดามัน ลงตรวจสอบปลาวาฬหัวทุย ซึ้งได้พบว่ามีขนาดใหญ่ที่ลอยตาย และได้มีมี จนท ประมง จ.กระบี่นำเรือลากขึ้นมาชายฝั่งเพื่อให้พิสูจน์การตายว่ามาจากสาเหตุใดบ้าง และส่วนที่มีการตัดฟันของวาฬนี้ออกไป ทาง จนท ได้มีการแจ้งความไว้แล้วที่ สภ เกาะลันตา เพราะเป็นปลาถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฏหมาย และสั่งให้ จนท กั้นแนวเขตเพื่อป้องกันและให้ความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในปฎิบัติงาน