“ตม.จว.สมุทรสงคราม เข้มตรวจต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่ รวบ 2 หม่องสาละวินเมียนมาอยู่ในไทยเกินกำหนด 1015 วัน เกือบ3 ปี “

“ตม.จว.สมุทรสงคราม เข้มตรวจต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่ รวบ 2 หม่องสาละวินเมียนมาอยู่ในไทยเกินกำหนด 1015 วัน เกือบ3 ปี “

 

พ.ต.ท.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ สวญ.ด่าน ตม.จว.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่าได้สั่งการใก้ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สมุทรสงคราม ออกตรวจตราในพื้นที่และรับแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดในพื้นที่ จว.สมุทรสงคราม โดยตามวันเวลาที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่ามีคนต่างด้าวเดินอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้จับจึงได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบตามที่มีประชาชนแจ้งเบาะแส เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ถูกจับที่ ๑ และ ๒ กำลังเดินอยู่บริเวณดังกล่าวจริง จึงได้แสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวของผู้ถูกจับที่ ๑ และ ๒ โดยผู้ถูกจับที่ ๒ นั้นสามารถ พูด ฟัง และเข้าใจภาษาไทยได้เป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ร้องขอให้ นาย โจเซอ่อง ไม่มีนามสกุล อายุ ๑9 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ ๒ เป็นล่ามแปล การสอบถามทราบว่า


ถูกจับที่ ๑ และ ๒ เป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา ไม่มีเอกสารประจำตัวใด ๆ และได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติจังหวัดตากช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา เพื่อต้องการเข้ามาหางานทำ และนำรายได้กลับไปดูแลครอบครัวที่ประเทศเมียนมา ตระเวนหางานทำแต่เนื่องจากตนทั้งสองไม่มีเอกสารประจำตัวใด ๆ จึงไม่มีผู้ใดรับตนเข้าทำงาน และถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบเสียก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่า บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาและอยู่ในประเทศไทยทุกคนต้องมีเอกสารประจำตัวเพื่อใช้แสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จากพฤติการณ์ดังกล่าวจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทั้งสองทราบว่า เป็นความผิดตาม มาตรา 81 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ฐาน “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ทางด้านพันตำรวจตโท ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ สารวัตรใหญ่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสงครามเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในการตรวจตราดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการ ของพลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และพลตำรวจตรี อาชยน ไกรทอง ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ที่สั่งการให้เข้มงวดกวดขัน ในการกระทำความผิดของคนต่างด้าว ที่อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะการหลบหนีเข้าเมือง การอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนด การไม่แจ้งที่พักและรายงานตัวตามมาตรา 37&38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ที่ทำให้ไม่สามารถทราบข้อมูล ในการ อยู่ต่อหรือพักอาศัยว่าอยู่จุดใดมาบ้างทั้งในอดีตและปัจจุบันรวมถึงอนาคตที่จะต้องมีข้อมูลเก็บไว้ใช้ในการตรวจของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองโดยหากประชาชนมีเบาะแสการกระทำความผิดในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสงคราม โปรดแจ้งได้ที่สายด่วน สตม.1178 หรือแจ้งได้ที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสงครามได้ทันทีทุกจุด พันตำรวจโท ปริวัฒน์กล่าวทิ้งท้ายในที่สุด

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล (ที่ปรึกษาพิเศษด้านการแถลงข่าว/ประชาสัมพันธ์ข่าว)

Related posts