บุกจับไม้แก๊งมอดไม้ลักลอบตัดไม้หวงห้าม ในป่าพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าตะ-ป่าห้วยหลอด-ป่าเขาขุมทรัพย์ หมู่ที่ 3 ต.นาทอน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=poAAhrFjYkg[/embedyt]
ที่บริเวณหมู่ที่ 3 ต.นาทอน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ภายใต้การอำนวยการของ นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และนายวีระพรรณ สุขะวัลลิ นายอำเภอทุ่งหว้า,พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผบ.ร.5 พัน.2 / รอง ผบ.ฉก.ร.5,นายเอกรินทร์ เตาวะโต ปลัดอำเภองานป้องกัน, นายพจน์ สุขลิ้ม กำนันตำบลนาทอน และสมาชิก อส. กองร้อย อส.อ.ทุ่งหว้าที่ 3 มว.ต.ประสาน สังข์ทอง มญ.อร่าม ทุ่งหว้า มญ.สามารถ แก้วดำ มต.บัญญัติ ขุนแสง มต.ศุภมิตร หมาดยูโส๊ะ ,ร.ท.ชัยยศ คงกะพันธ์ ผบ.มว.ปล.ที่ 3 ร้อย ร. เคลื่อนที่เร็ว กกล.เทพสตรี, จ.ส.อ.สมพิศ ศาสน์ประดิษฐ์ จ.ส.อ.สุวรรณ ทนันไธสงค์ จ.ส.อ.ประสิทธิ์ เลื่อนแป้น ส.อ.อภิพงษ์ ณ รังสี, นายนิวัฒน์ สุขเสนีย์ นายสุภาพ คงประดิษฐ์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้
ได้ร่วมกันทำการจับตัว นายรอสัก หวันสู อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ที่ 5 ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล พร้อมด้วยของกลาง จำนวน 2 รายการ เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อ STELL 180 จำนวน 1 เครื่อง, ไม้ตะเคียนหินแปรรูป ขนาดและจำนวน 49 ชิ้น/แผ่น สถานที่จับกุมบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าตะ-ป่าห้วยหลอด-ป่าเขาขุมทรัพย์ หมู่ที่ 3 ต.นาทอน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล โดยเจ้าพนักงานได้แจ้งแก่ผู้ที่จะถูกจับนั้นว่า เขาต้องถูกจับในข้อกล่าวหา พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานยืดถือครอบครอง ทำประโยชน์ ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆที่เป็นผลเสียต่อป่าสงวนแห่งชาติ, พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน ทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือกระทำการใดๆ ต่อไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 48 ฐานแปรรูปไม้หรือมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครอง ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ มีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พ.ร.บ. เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 มาตรา 4 ฐานมีเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,
พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 มาตรา 97 ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วย กฎหมายอันเป็นการทำลาย หรือทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ หรือ เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของ ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น ผู้ต้องหา นายรอสัก หวันสู รับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ตัดโค่นไม้ตะเคียนหินจำนวน 1 ต้น และแปรรูปเป็นตัวไม้เพียง 18 ชิ้น/แผ่น ส่วนไม้แปรรูปที่เหลือเป็นของบังมุดและไม่ทราบว่าใครเป็นผู้แปรรูป และรับสารภาพว่าเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ดังกล่าวเป็นของตน และรับสารภาพฐานทำให้เสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐหรือสาธารณสมบัติของแผ่นดิน,ไม้ของกลางอีกส่วนหนึ่ง จำนวนประมาณ 300 แผ่น ได้แยกบันทึกตรวจยึดเป็นอีกคดีหนึ่ง ซึ่งจะรายงานให้ทราบต่อไป
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล