กระทรวงคมนาคมจับมือกรมเจ้าท่าชูเรือพลังงานไฟฟ้าเชื่อมโยงขนส่งมวลชนเต็มระบบ เรือ-รถ-รางให้บริการประชาชน ประหยัดค่าใช้จ่าย เดินทางเร็ว ลดปัญหา PM 2.5
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=BBanO5ddyto[/embedyt]
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563 บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ “EA” ได้จัดงาน “Modern PHENOMENON OF MASS TRANSIT” โดยมีนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เข้าร่วมงานดังกล่าว ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความพร้อมของ EA และบริษัทในกลุ่มในดำเนินการตามแผนยกระดับความคล่องตัวในการเดินทางและการขนส่งไปสู่มิติใหม่ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าได้เต็มรูปแบบ ทั้งทางเรือ – รถ – ราง ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนที่มีอยู่แล้ว ยังลดต้นทุนการเดินทางของประชาชน ลดเวลาในการเดินทาง เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ภายใต้วิถีปกติใหม่ (New Normal) เป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางที่ตอบโจทย์ครบในทุกมิติ นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร ที่มีความงดงามแตกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความงดงามของทัศนวิสัยตลอดลำน้ำเจ้าพระยา ดึงดูดนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป ให้หันมาเดินทางโดยเรือไฟฟ้าที่สวยงาม ทันสมัย ปลอดภัย สะอาด ไม่มีมลพิษทั้งทางอากาศและเสียงและเชื่อมต่อกับระบบการเดินทางทางบกได้อย่างลงตัวอีกด้วย
ในการนี้ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนงานที่จะนำเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนมาใช้ในยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายประเภทให้มากที่สุด เนื่องจากจะช่วยประหยัดพลังงานและลดมลภาวะได้เป็นอย่างดี จึงได้ลงทุนออกแบบและผลิตเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าที่เป็นฝีมือของคนไทย 100% ต่อเนื่องด้วยรถบัสโดยสารไฟฟ้า โดยนำเทคโนโลยีการชาร์จ DC Fast Charger ของ EA Anywhere ที่ทันสมัยที่สุดของกลุ่ม EA ที่สามารถชาร์จเร็วทั้งเรือและรถบัสไฟฟ้าได้ภายใน 15-20 นาที มาสร้างระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย เข้าสู่การเดินทางที่ประหยัดพลังงานและไร้มลพิษ
“เรามีความพร้อมในการให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าระบบขนส่งมวลชน ทั้งในส่วนของเรือพลังงานไฟฟ้า และรถบัสโดยสารไฟฟ้า โดยปัจจุบันเรือพลังงานไฟฟ้า MINE Smart Ferry ลำแรกสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยเป็นเรือโดยสารไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุด และได้รับการจดทะเบียนเป็นเรือพลังงานไฟฟ้าเป็นลำแรกของประเทศเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการสร้างเรือที่เหลือโดยมีงบประมาณลงทุนทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้เรายังได้นำรถบัสโดยสารไฟฟ้ามาทดลองให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2562 แล้ว และกำลังจะเริ่มผลิตจริงในต้นปีหน้า โดยจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของกลุ่ม EA คือการมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่เป็นของเราเอง และการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องอัดประจุไฟฟ้า DC Fast Charger ของ EA Anywhere ให้สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ภายในเวลาเพียง 15-20 นาที เท่านั้น ทำให้รองรับการใช้งานได้ตรงจุด ประหยัดค่าพลังงาน ประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง มีความคล่องตัวในการขยายจุดติดตั้งทั่วประเทศ” นายอมรกล่าว
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวอีกว่า โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทย่อย ที่ชื่อบริษัท ไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จำกัด นั้น ปัจจุบันอาคารโรงงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรและทดสอบการผลิต อีกทั้งอยู่ระหว่างสร้างโรงงานผลิตรถบัสไฟฟ้าอีกด้วย โดยมั่นใจว่าจากปีปลายนี้เป็นต้นไป จะเป็นโอกาสที่ดีที่คนไทยจะได้มีประสบการณ์ในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ และได้เห็นถึงข้อดีของ
ยานยนต์ไฟฟ้า คุณภาพ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นทางเลือกในการใช้ยานพาหนะเดินทางที่ประหยัดพลังงาน ค่าโดยสารไม่แพง สะอาด ปลอดภัย และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี