ข่าวสังคมประจำวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2563 สินในน้ำ ยังมา นั้งหน้าแป้นพิมพ์รายงานเหมือนเดิม ……………เช้านี้ที่โรงแรมดิเอ็มเพรส ถนนช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พี่นิด วราภรณ์ วรพงศธร ขนส่งเชียงใหม่ จัดกิจกรรมประมูลป้ายทะเบียนรถเลขสวย ในหมวด งข จำนวน 301 หมายเลข ครั้งที่ 26 โดยในครั้งนี้ได้มีการนำเอาแผ่นป้ายที่ภาพกราฟฟิคมีสีสันสวยงาม และมีเอกลักษณ์ความหมายบ่งบอกของความเป็นจังหวัดเชียงใหม่ ตามคำขวัญที่ว่า ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผาชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์ การประมูลฯในครั้งนี้รายได้จากการประมูลจะไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ นำเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เรียนเชิญนะครับ …………….มาดูราคาทองคำวันนี้ เมื่อวานผมบอกว่ามันขึ้นไปแตะเกือบสามหมื่นบาท มาวันนี้ราคาทองคำรูปพรรณอยู่ที่ บาทละ 30,350 บาท เวลานี้ใครที่มีทองถือว่าโชคดี แต่ขอกระซิบก่อนนะครับว่า ยังไงอย่าพึ่งเทขายเสียจนหมดหน้าตัก เกิดเทข่ายไปแล้ว มันดันขึ้นพรวดมาอีกแล้วจะเสียดาย อย่างวันก่อนคนที่ขายไปแล้ว คงนึกเสียดาย ผมเองก็มีทองพรรคพวกพึ่งส่งมาให้แต่บังเอิญมันขายไม่ได้นี่สิ เพราะมันเป็นทองม้วนจากเพชรบุรี ……………มาดูสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อสะสมจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งผมจะแจ้งให้ท่านได้รับทราบข้อมูลถ้าหากว่าผมมีอยู่ในมือ มาที่ประฟิลิปปินส์ กลุ่มแพทย์และพยาบาล แนะให้ล็อกดาวน์รอบใหม่ ย้ำระบบสาธารณสุขจะล้มเหลว จำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้นหากมาตรการคุมไม่เข้ม …………….ประเทศเวียดนาม พบยอดผู้ติดเชื้อล่าสุด 621 ราย หลังที่ไม่พบผุ้ติดเชื้อมานานกว่าสามเดือน เทศบาลฮานอย สั่งปิดบาร์ ห้องคาราโอเกะ ห้ามขายสินค้าริมทางทุกประเภทอย่างไม่มีกำหนด ประเทศออสเตรเลีย รัฐวิททอเรีย ประกาศ ภาวะภัยพิบัติ ทำการล็อกดาวน์ในระดับ 4 หลังพบผู้ติดเชื้อ 671 ราย และมีผู้เสียชีวิต 7 รายในวันเดียว …………….และล่าสุดที่ประเทศฟิลิปปินส์สั่งล็อกดาวน์เข็มงวดและอีกสองอาทิตย์ ระบบขนส่งสาธารณะต้องหยุดให้บริการ และให้ออกนอกบ้านเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น นี่มันวิกฤตจริงๆ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นกันแล้ว ส่วนที่ประเทศอเมริกาเอาจริง เพราถ้าไม่เอาจริงประชากรอาจจะหายไปเกินครึ่งของประเทศก็เป็นได้ ………………โดยสหรัฐสั่งปรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากาก 7,800 บาท ประเทศออสเตรเลียปรับคนที่ไม่กักตัว 100,000 บาท และหากไม่สวมหน้ากากถูกปรับอีก 4,431 บาท และหากยังฝ่าฝืนอีก จะแจ้งอีกข้อหา พร้อมปรับในขั้นสูงสุดถึง 443,156 บาท ไวรัสตัวนี้ผมว่า ถ้าไม่คุมเข้มจริงๆ ประชากรของประเทศนั้นๆอาจจะลดลงไปเรื่อยๆ ยิ่งเจ้าไวรัสตัวนี้มันได้ปรับตัวเป็นสายพันธ์ใหม่ด้วยแล้ว มันน่ากลัวจริงๆ …………….เวลานี้สิ่งที่คนไทยหวั่นไหวคือการที่เราจะเปิดประเทศแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ หากเปิดแล้วทางเราจะมีมาตรการจัดการอย่างไร หรือเกิดเปิดไปแล้ว นักท่องเที่ยวเอาเชื้อเข้ามาด้วยจะทำอย่างไร เพราะว่าเชื้อร้ายพวกนี้ มันไม่ต้องใช้วีซ่า ไม่ต้องมีพาสสปอร์ท แค่คิดก็ฝันร้ายแล้ว ……………แต่ถ้าไม่เปิดเราก็น่าเห็นใจเจ้าของธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะโรงแรม เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติแทบ ทั้งนั้น ขนาดในเชียงใหม่เวลานี้ โรงแรมยังเปิดกันไม่ครบ เพราะไม่มีลูกค้า แล้วที่เปิดๆกันไปแล้ว ก็ใช้ว่าจะดีพอ อันนี้ก็น่าเห็นใจ มันก็ขึ้นอยู่ที่สมองของรัฐบาลว่าจะแก้ไขกันยังไงดี ถ้าเกิดมาระบาดรอบสอง ผมว่าประชนจะอยู่กันไม่ได้ จะเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าถึงขั้นเกิดจลาจลก็เป็นได้
………….วันนี้ออกเวรละครับ ……....สินในน้ำ